♠ Posted by Unknown in Daily News at 20:13
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.

ถังอบลดความชื้นเมล็ดกาแฟ ได้ออกแบบเป็น 2 ขนาดความจุ คือ 400 กก./ครั้ง และ 800 กก./ครั้ง คุณเวียง เล่าว่า การที่ออกแบบไว้ 2 ขนาด ก็เพื่อเปรียบเทียบดูประสิทธิภาพจะต่างกันหรือไม่ เมื่อนำไปทดสอบดูแล้วปรากฏว่าประสิทธิภาพการลดความชื้นไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าใช้ขนาด 800 กก./ถัง เราจะต้องเพิ่มขนาดทุกอย่าง ขนาดพัดลม มอเตอร์ขับเคลื่อน
ลักษณะถังอบจากเดิมเป็นรูปทรงกลมได้เปลี่ยนเป็นทรงกระบอกแปดเหลี่ยมเพื่อง่ายต่อการสร้าง มีท่อลมร้อนสำหรับเป่าอัดลมร้อนผ่านเมล็ดกาแฟที่อยู่ตรงกลางถัง ถ้ามองจากหน้าตัดถังจะเห็นเป็นรูปวงแหวนแปดเหลี่ยมด้านนอก เส้นผ่าศูนย์กลางถังอบ 1,000 และ 1,800 มิลลิลิตร ตามลำดับความจุ ความยาวถัง 1,200 มิลลิลิตร เท่ากันทั้งสองขนาด มีใบกวนคลุกเคล้าเมล็ดกาแฟ 4 ใบ มีการออกแบบช่องระบายความชื้นให้ออกทั้งสี่ด้านสมมาตรกับด้านแปดเหลี่ยมของถังช่วยให้การกระจายลมร้อนทั่วถึง และที่สำคัญช่องตะแกรงระบายความชื้นนี้สามารถถอดเปลี่ยนขนาดรูตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดเมล็ดพืชที่นำมาอบแห้งได้ มีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนการหมุนถังอบให้แข็งแรงทนทานมากขึ้น มีห้องกักเก็บความร้อนเพื่อหมุนเวียนความร้อนกลับมาใช้บางส่วนในช่วงเมล็ดกาแฟความชื้นลดต่ำลง เป็นการประหยัดเชื้อเพลิงความร้อน และที่สำคัญมีประสิทธิภาพในการอบแห้งดีขึ้น
สำหรับระบบขับเคลื่อนการหมุนถัง มีการปรับปรุงในส่วนลูกกลิ้งรับถังให้มีการรับน้ำหนักดีขึ้น สึกหรอช้าลง ระบบขับเคลื่อนการหมุนถังอบใช้โซ่และเฟืองเบอร์ 120 โดยใช้โซ่พันรอบถังอบและใช้เฟืองขับโซ่มีมอเตอร์ขนาด 2.2 กิโลวัตต์ เป็นต้นกำลัง และมีชุดเกียร์ทดและเฟืองทดรอบให้ถังอบหมุน 2.5 รอบต่อนาที
แหล่งกำเนิดความร้อน มี 2 แบบ คือ ความร้อนจากแก๊สหุงต้มหรือแก๊สแอลพีจี เป็นต้นกำเนิดความร้อนพร้อมอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ การใช้แก๊สหุงต้มจะมีชุดหัวพ่นแก๊ส หุงต้มและอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิสามารถตั้งอุณหภูมิได้ตามต้องการ ขณะนี้การใช้แก๊สแอลพีจีเริ่มมีปัญหาเนื่องจากราคาแพงขึ้น ทำให้มีปัญหาเรื่องต้นทุนอบแห้งจึงคิดอีกวิธีหนึ่งขึ้นมา คือ ใช้ความร้อนจากเตาเชื้อเพลิงชีวมวล โดยการใช้ฟืนซึ่งสามารถหาได้ในท้องถิ่น แต่จะต้องมีชุดแลกเปลี่ยนลมร้อนจากเตาชีวมวล หรือใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน
อุปกรณ์ลำเลียงป้อนกาแฟเข้าถัง อุปกรณ์จะเป็นกะพ้อขนาด 100 มิลลิเมตร และสายพานใต้ถังอบและนำกาแฟออกจากถังเมื่ออบแห้งแล้ว
ผลการทดสอบการอบแห้งกาแฟกะลา อุณหภูมิที่ใช้อบเริ่มต้นที่ 100 องศาเซลเซียส และปรับลดตามอุณหภูมิเมล็ดที่สูงขึ้น ซึ่งไม่ควรเกิน 45 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบแต่ละครั้งประมาณ 16-18 ชั่วโมง ที่ความชื้นเมล็ดกาแฟ 55 เปอร์เซ็นต์ และอบลดจนเหลือ 12 เปอร์เซ็นต์ จากวิธีการอบแห้งแบบการเวียนลมร้อนบางส่วนกลับมาใช้ใหม่ มีค่าประสิทธิภาพความร้อนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์
“เราสามารถประยุกต์ใช้อบแห้งเมล็ดพืชได้เกือบทุกชนิด เช่น กาแฟโรบัสต้า อาราบิก้า อบได้แบบเปลือกหรือกะลา เมล็ดข้าวโพด ถั่วชนิดต่าง ๆ และเมล็ดพริกไทย เป็นต้น เพียงแต่เปลี่ยนตะแกรงช่องระบายความชื้นให้มีขนาดเหมาะสมกับขนาดเมล็ดพืชชนิดนั้น ๆ” คุณเวียง กล่าว
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-4325-5038.
0 comments:
Post a Comment