ประเภทของหอยขม

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
หอยขมเป็นหอยฝาเดียวอาศัยในน้ำจืดมีขนาดเล็ก เปลือกเป็นเกลียวกลมยอดแหลม เปลือกหนาและแข็ง ผิวชั้นนอกเป็นสีเขียวแก่ ฝาปิดเปลือกเป็นแผ่นกลม ตีนใหญ่ ลักษณะพิเศษของหอยชนิดนี้คือ มีอวัยวะเพศทั้งเพศผู้และเพศเมียอยู่ในตัวเดียวกัน ออกลูกเป็นตัว และผสมพันธุ์ได้ด้วยตัวของมันเองเมื่ออายุได้ 60 วัน หอยขมออกลูกเป็นตัวครั้งละประมาณ 40-50 ตัว หอยขมเป็นสัตว์น้ำที่ให้คุณค่าทางอาหาร มีโปรตีน 12 เปอร์เซ็นต์ คาร์โบไฮเดรต 4 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 2 เปอร์เซ็นต์ และความชื้น 78 เปอร์เซ็นต์ จึงเหมาะสำหรับนำมาประกอบอาหารแต่ก่อนรับประทานควรทำให้หอยขมสุกเต็มที่ เนื่องจากหอยขมมีตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ในลำไส้ เมื่อเข้าสู่คนแล้วสามารถเจริญเติบโตในคนได้ (ข้อมูลจากกรมประมง).

วิถีการสังเกดหอยกาบน้ำจืด

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important thanks.
หอยกาบน้ำจืด (Bivalve)  เป็นกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอีกกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกจำนวนมาก และมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี จึงพบแพร่กระจายได้ทั่วไป มีรูปร่างและขนาดตัวต่าง ๆกัน มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย อาทิ เนื้อหอย ประชาชนบางกลุ่มนำมาปรุงเป็นอาหาร เปลือกหอย เมื่อขัดผิวนอกออกจะมีความมันวาว ซึ่งนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ หอยบางชนิด นำมาใช้ในอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงไข่มุกแทนหอยมุกทะเล เปลือกหอยบางชนิดนำมาเข้าเป็นเครื่องยา (ข้อมูลจากกรมประมง).

เรื่องน่ารู้อ่านในการเปลือกสะเดา

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
ในทางสมุนไพรไทยเปลือกสะเดามีประโยชน์ในการใช้เป็นยาขมเจริญอาหาร ด้วยการใช้เปลือกสดประมาณ 1 ฝ่ามือ นำมาต้มกับน้ำ2 ถ้วยแก้ว ใช้รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้ว ช่วยแก้กษัย หรือโรคซูบผอม ผอมแห้งแรงน้อย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง เนื่องจากในเปลือก ของสะเดา มีสาร ที่ช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว โดยไม่ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย ช่วยแก้ไข้ สร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย คนไทยที่นิยมเดินป่าเมื่อครั้งอดีตจะใช้เปลือกสะเดาช่วยแก้ไข้มาลาเรีย หรือไข้จับสั่น โดยใช้เปลือกสะเดา นำมาต้มกับน้ำแล้วเคี่ยวให้งวด ใช้ดื่มขณะยังอุ่น เมื่อดื่มแล้วให้นอนคลุมโปง จะทำให้เหงื่อออกมาก และกินซ้ำ 3-4 วัน อาการไข้จับสั่นจะค่อยๆ ทุเลาลง

เอกลักษณ์โกสนในการดูดมลพิษในอากาศ

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
โกสนเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีความสามารถอยู่บ้างในการดูดมลพิษในอากาศ ถึงแม้จะไม่มากเท่ากับไม้ประดับชนิดอื่น ๆ แต่มีข้อได้เปรียบที่สีสันสวยงามของโกสน ทำ ให้ได้รับเลือกเป็นไม้ประดับยอดนิยมชนิดหนึ่ง โกสนมีอยู่มากมายหลายพันธุ์ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ความโดดเด่นอยู่ที่ลักษณะของใบที่มีหลากหลายทั้งรูปแบบและสีสันที่สดใสงดงาม จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั้งภายในและภายนอกอาคาร ตามปกติโกสนเป็นไม้ประดับที่ปลูกไว้ภายนอกอาคาร เพราะเป็นไม้กลางแจ้งที่ชอบแดด สีสันของโกสนจะสวยงามได้ขึ้นอยู่กับการที่ได้รับแสงแดดที่พอเพียง ดังนั้นเมื่อนำโกสนมาปลูกเป็นไม้ประดับภายในอาคาร จึงควรตั้งไว้ในที่ที่ได้รับแสงอย่างพอเพียง หรือมีแสงแดดส่องถึง มิฉะนั้นสีของใบโกสนจะซีดลง (

ถีกนิกการดูข้าวสาร

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important thanks.
สถาบันค้นคว้ากสิกรรมและป่าไม้แห่งชาติ กระทรวงกสิกรรม-ป่าไม้ ประเทศลาว และ สถาบันวิจัยมนุษยศาสตร์และธรรมชาติ ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการสำรวจค้นหาพันธุ์ข้าวในลาว พบว่าปัจจุบันลาวมีพันธุ์ข้าวอยู่ประมาณ 5,000 ชนิด และในระหว่างการสำรวจได้มีการรวบรวมตัวอย่างพันธุ์ข้าวพื้นเมืองได้มากถึง 13,913 ตัวอย่าง รวมทั้งข้าวป่าอีก 6 ชนิด และจากความร่วมมือของสถาบันดังกล่าว ในอนาคตจะมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวเหล่านี้เพื่อการเพาะปลูกทั้งเพื่อบริโภคภายในประเทศและจำหน่ายยังตลาดโลกต่อไป.

เรื่องน่าอ่านพิษจากดองดึง

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
 ต้นดองดึงเป็นพืชที่มีพิษอยู่ในทุกส่วน ทั้งผลอ่อน ผลแก่ เมล็ด ใบ หัว ราก ลำต้น หากรับประทานผลอ่อนของดองดึงเพียง 1 ผล หรือเมล็ดเพียง 1 เม็ด หลังรับประทานไปแล้ว 2-6 ชั่วโมง จะรู้สึกแสบร้อนในปาก ลำคอเหมือนเป็นโรคกระเพาะ ที่อาการรุนแรง จะมีอาการคอแห้ง กระหายน้ำปวดศีรษะ ปวดตามตัว ปากและผิว  หนังชา คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง ถ่ายเป็นน้ำหลายครั้ง อุจจาระมีเลือดปน มีเลือดออกภายในร่างกาย ปวดบิดท้อง หายใจลำบาก เนื่องจากขาดออกซิเจน กลืนไม่ลงชักหมดสติช็อกจากการเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย มีภาวะไตวายอาจเสียชีวิต ภายใน 3-20 ชั่วโมง (ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข).

มาเรื่อนรู้เื่องราวของชมพู่

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
ชมพู่เป็นผลไม้ที่ให้เส้นใยอาหารทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ดีต่อระบบขับถ่ายช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะ ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ วิตามินซีช่วยปกป้องร่างกายด้วยการ   เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ เป็นไม้ผลเขตร้อนซึ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ตระกูลเดียวกับฝรั่ง หว้า ยูคาลิปตัส ดอกมีกลิ่นหอมคล้ายกุหลาบ ผลมีรสชาติหวานกรอบ คนไทยจึงนิยมปลูกเป็นไม้มงคลประจำบ้าน

ยินดีต้อนเรื่องน่ารู้หญ้าดอกขาว

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า หญ้าสามวัน ก้านธูป หญ้าละออง และหญ้าหมอน้อย ปัจจุบัน มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ของหญ้าหมอน้อยมากมาย พบว่ามีสารออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา เช่น ขับปัสสาวะ ป้องกันไม่ให้ไตถูกทำลาย ต้านแบคทีเรีย ต้านมาลาเรีย ลดไข้ แก้ปวด  แก้อักเสบ คลายกล้ามเนื้อเรียบ ต้านการเกิดแผล ต้านเบาหวาน ต้านการกระจายของมะเร็ง ต้านไม่ให้รังสีแกมมาทำลายเซลล์ เป็นต้น รวมไปถึงสรรพคุณในเรื่องของการลดความอยากบุหรี่ที่กำลังเป็น ที่สนใจของคนทั่วไปที่ต้องการให้ตนเองและคนที่รักเลิกบุหรี่อีกด้วย.

การแก้ปัญหาปัญหาพริกสดตกราค่า

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.



จากปัญหาพริกสดเขียวที่จังหวัดนครศรีธรรมราชราคาตกต่ำมากตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยขายได้เพียงกิโลกรัมละ 8 บาท จากปีที่แล้วกิโลกรัมละ 40 บาท ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะค่าจ้างแรงงานเก็บพริกกิโลกรัมละ 7 บาทแล้ว ซึ่งนายณรงค์ คงมาก นักวิจัยในพื้นที่ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยการหาช่องทางในการส่งออกพริกไปประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ราคาพริกสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 14 บาท จึงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้บ้าง แต่จำเป็นต้องหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาพริกสดเขียวราคาตกต่ำให้ได้

ล่าสุด อ.วีระ ภาคอุทัย หัวหน้าโครง การวิจัย “การพัฒนาระบบการตัดสินใจ และการจัดการโซ่อุปทานพริกปลอดภัย จังหวัดแพร่ น่าน และชัยภูมิ” ของ สกว. เปิดเผยว่า ตนและ ดร.เยาวรัตน์ ศรีวรานันท์ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เดินทางลงพื้นที่โดยการประสานงานจากสภาเกษตรกร นครศรีธรรมราช ซึ่งจากการศึกษาชนบทแบบเร่งด่วน พบว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการปลูกพริกมากในเขตอำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอปากพนัง รวมประมาณ 7,000 ไร่ สภาพที่ดินมีความอุดมสมบรูณ์ น้ำจะท่วมหลากพื้นที่ประมาณเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เกษตรกรเริ่มปลูกพริกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และเริ่มเก็บพริกเขียวตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน หลังการปลูกประมาณ 65-70 วัน    โดยไม่ต้องรอเก็บพริกแดง ทั้งนี้พันธุ์พริกที่เกษตรกรส่วนมากนิยมปลูก คือ พันธุ์ลูกผสมหรือที่เกษตรกรเรียกว่า “พริกรูด” เนื่องจากเก็บเกี่ยวหรือเด็ดง่าย และสามารถหาซื้อพันธุ์ได้ในท้องตลาด

นอกจากปัญหาราคาตกต่ำแล้ว     เกษตรกรยังประสบปัญหาโรคพริกที่เกิดจาก เชื้อราและแบคทีเรีย เช่น โรคกุ้งแห้ง โรคยอดไหม้ โรคโคนเน่า และอาการใบพริกเหลือง ต้นพริกเหี่ยวแห้งยืนต้นตาย เนื่องจากมีฝนตกเกือบทุกวัน และเกษตรกรปลูกพริกแบบสภาพพริกไร่ คือ หลังจากไถเตรียมดินแล้วก็ขุดหลุมปลูก ไม่ขึ้นแปลง ระยะปลูกชิดกัน ไม่มีการแต่งกิ่งแขนงใต้ง่ามแรก เมื่อพริกเจริญเติบโต กิ่ง ก้าน ใบพริก ระหว่างต้น จึงซ้อนทับกันแน่นทำให้ลมพัดผ่านไม่สะดวก แสงแดดส่องไม่ถึงโคนต้น เกษตรกรไม่เก็บพริกที่เป็นโรคหรือแมลงออกไปเผาทำลาย ทำให้การแพร่กระจายของโรคและแมลงได้รวดเร็ว เป็นต้น

ด้านการตลาดพริกเขียวมีตลาดหลัก คือ มาเลเซีย จากการสอบถามแม่ค้าหรือผู้ส่งออกพริกรายใหญ่ที่ตลาดกลางขายส่งผักและผลไม้ตลาดหัวอิฐ อำเภอเมือง ปรากฏว่ามีปริมาณพริกสดส่งออกมากถึงประมาณปีละ 1.8-2 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่าปีละ 450-600 ล้านบาท โดยส่งออกเกือบทุกวัน ๆ ละประมาณ 60 ตัน พริกส่วนมากมาจากทั่วทั้งประเทศ โดยพริกที่ส่งออกไปยังมาเลเซียมีหลายประเภท ได้แก่ พริกขี้หนูสวน เช่น พริกแด้หอมหรือพริกขี้หนูหอมจากเชียงใหม่ ตาก และตราด เป็นต้น พริกขี้หนูผลใหญ่ เช่น พริกเขียวและพริกแดงพันธุ์ลูกผสม จากศรีสะเกษ นครราชสีมา ชัยภูมิ และลพบุรี เป็นต้น พริกใหญ่หรือพริกชี้ฟ้าหรือพริกยำ พริกยำเขียว พริกยำแดง จากแพร่ น่าน เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย และหนองคาย เป็นต้น ปัญหาที่สำคัญในการส่งออก คือ คุณภาพของพริกไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยเฉพาะพริกขี้หนูผลใหญ่และพริกแดงสู้พริกที่มาจากประเทศเวียดนามไม่ได้ เพราะขนาดผลเล็กกว่าเก็บได้นานเป็นเดือน แต่พริกสดของไทยเก็บได้ไม่เกิน 10 วัน

สำหรับปัญหาราคาพริกตกต่ำนั้นเกิดจากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ ปีนี้ทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชและเกือบทุกจังหวัด มีพื้นที่ปลูกพริกเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจาก     ปีที่ผ่านมาเกษตรกรขายพริกได้ราคาสูง และพริกจากแหล่งที่ผลิตพริกสดพันธุ์ลูกผสมเพื่อการค้าที่สำคัญของประเทศออกผลผลิตในช่วงเดียวกัน คือพริกสดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ ปกติจะออกสู่ตลาดมากตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม ต่อจากนั้นพริกจากชัยภูมิโดยเฉพาะอำเภอเกษตรสมบูรณ์จะออกสู่ตลาดตั้งแต่ เดือนมีนาคม-มิถุนายน แต่ปีนี้บางอำเภอของศรีสะเกษมีการปรับช่วงปลูกพริกช้าลง เพราะฝนตกหนักช่วงเดือนธันวาคม ทำให้ช่วงเก็บเกี่ยวล่าช้าออกไป 1-2 เดือน ส่งผลให้พริกจากทั้งสามจังหวัดออกสู่ตลาดมากในช่วงเดียวกันคือเมษายน-พฤษภาคม ราคาพริกเขียวและพริกแดงของไทยจึงตกต่ำ ซึ่งเป็นปัญหาที่เคยเกิดซ้ำมาแล้วหลายครั้ง

“พริกจึงเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการขาดการประสานข้อมูลระดับพื้นที่ ในการนำข้อมูลมาประกอบการวางแผนการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาพริกล้นตลาด และราคาตกต่ำ อีกทั้งสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ ดังนั้นเกษตรกรจึงควรรู้จักการเรียนรู้ที่จะปรับวิธีคิดจากการทำการเกษตรในปัจจุบันให้เป็น การทำธุรกิจการเกษตร โดยศึกษาหาความรู้ใหม่ที่เหมาะสม และข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะทำการผลิต ทั้งข้อมูลการผลิต การตลาด คุณภาพมาตรฐานสินค้า กฎระเบียบทางการค้า ความเคลื่อนไหวของราคา การแข่งขัน การกีดกันทางการค้า การจัดการกลุ่มเกษตรกร การประสานความร่วมมือระหว่างกลุ่มเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากราคาและภัยทางธรรมชาติ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2558” อ.วีระ กล่าวสรุป.

เรื่องน่ารู้ ผักกะสัง

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
ผักกะสังถือว่าเป็นผักต้านมะเร็งชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยในปัจจุบันพบว่า ผักกะสังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินซีสูง ในตำรายาไทยระบุไว้ว่าใบของผักกะสังใช้ในการรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งพอจะอธิบายได้ว่า ในผักกะสังมีวิตามินซีและสารอาหารสูง ซึ่งการรักษานั้นใช้ทั้งการกินและการบดต้นแปะบริเวณที่เลือดออกตามไรฟัน หมอยาพื้นบ้านของไทยใช้ผักกะสังเป็นยาไม่มากนักส่วนใหญ่ใช้พอกฝีและสิวโดยใช้ต้นสดตำพอกฝี หรือใช้น้ำคั้นทาสิว (ข้อมูลและภาพจาก

อุปกรณ์ตรวจสอบอินทรียวัตถุในดิน

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
ดินเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการผลิตพืช เพราะเป็นแหล่งอาหารให้พืชได้ขึ้นอยู่และให้ธาตุอาหารที่จำเป็น ซึ่งธาตุอาหารพืชได้จากดินมีอยู่ 13 ชนิดด้วยกัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พืชต้องการใช้ปริมาณมาก ได้แก่ ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน แคลเซียม และแมกนีเซียม และกลุ่มที่พืชต้องการเป็นปริมาณน้อยมากได้แก่ ธาตุเหล็ก โมลิดินัม ทองแดง สังกะสี และคลอรีน

ผศ.ดร.เสาวนุช ถาวรพฤกษ์ ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ ผู้ประดิษฐ์ชุดตรวจสอบอินทรียวัตถุในดินซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง มก. ปี พ.ศ. 2555 กล่าวว่า อินทรียวัตถุในดิน (Soil Organic Matter) เป็นอินทรียสาร (Organic matter) หรือสารประกอบอินทรีย์ทุกชนิดที่มีอยู่ในดินที่มีจากซากพืช ซากสัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่ทับถมอยู่ในดิน รวมทั้งที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นมา ช่วยให้ดินโปร่งและร่วนซุย เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของรากพืช นอกจากนั้นยังสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืชที่สำคัญ เช่น ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และธาตุอื่น ๆ ให้แก่พืช มีอิทธิพลต่อสภาพของดิน ทั้งทางชีวภาพ กายภาพและทางเคมี แต่เนื่องจากการทำการเกษตรที่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน และมีการทำการเกษตรที่ไม่ถูกต้อง การใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งอาจมีปัญหาทำให้สมดุลของธาตุอาหารในดินสูญเสียไป หรืออาจทำให้คุณสมบัติของดินเปลี่ยนไปในทางที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้พืชไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยที่ได้รับ นอกจากจะเสียเงินแล้วยังทำให้ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำไปด้วย ดังนั้นจึงควรมีการตรวจและประเมินคุณภาพดิน เพื่อที่จะให้ปุ๋ยได้ในปริมาณที่ต้นพืชต้องการ ซึ่งหากเกษตรกรสามารถตรวจสอบคุณภาพดินได้เองก็จะช่วยประหยัดเวลาและตรวจสอบดินของตนเองได้ทุกเวลาที่ต้องการ แล้วนำผลการวิเคราะห์นั้นมาปรับสภาพดินให้ตรงกับปัญหาและทันต่อเหตุการณ์ได้

นักวิจัยได้กล่าวถึงหลักการวิเคราะห์ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เป็นการวิเคราะห์ปริมาณคาร์บอนซึ่งเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ ประมาณ 58 เปอร์เซ็นต์  ปัจจุบันการหาปริมาณอินทรียวัตถุในดินทำได้โดยวิธีการต่าง ๆ เช่น การใช้สารเคมีทำให้เกิดการออกซิเดชัน  (Oxi dation) ปัจจุบันมีการผลิตชุดตรวจสอบอินทรียวัตถุในดินอย่างแพร่หลาย ได้แก่ ชุดตรวจสอบคุณภาพดิน (Soil quality test kit) ของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ใช้ตรวจสอบหาปริมาณอินทรียวัตถุที่ใช้งานได้ สามารถแปลงค่าเป็นปริมาณไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ในดิน โดยใช้โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนส ทำปฏิกิริยากับปริมาณอินทรียวัตถุที่

ใช้งานได้ ในตัวอย่างดิน โดยที่สารละลายที่ได้จะเปลี่ยนสีจากสีม่วงเข้มซึ่งเป็นสีของโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนส เป็นสีชมพูอ่อน ความเข้มของสีขึ้นอยู่กับปริมาณอินทรียวัตถุที่ใช้งานได้ในดิน ชุดตรวจสอบของบริษัทลามอร์เต) การตรวจสอบของชุดนี้ใช้วิธีเดียวกับการตรวจสอบปริมาณอินทรียวัตถุในดินในห้องปฏิบัติการโดยวิธีวอล์คเลย์-แบลค (Walkley and Black) ซึ่งมีการทำ blank เพื่อเทียบกับสารละลายตัวอย่างดินในขั้นตอนการหาปริมาณอินทรียวัตถุจากชุดตรวจสอบ และยังต้องคำนวณจากการไตเตรทกับ เฟอร์รัสซัลเฟต ซึ่งชุดตรวจสอบทั้งสองชุดนี้มีความแตกต่างกับชุดตรวจสอบอินทรียวัตถุจากการประดิษฐ์นี้

ผศ.ดร.เสาวนุช กล่าวว่า ชุดตรวจสอบอินทรียวัตถุในดินที่ประดิษฐ์ขึ้นเป็นการตรวจสอบปริมาณรวมของอินทรียวัตถุในดินและมีการดัดแปลงวิธีโดยการลดขั้นตอน โดยวิธีการเปรียบเทียบสีของสารที่เปลี่ยนไปกับแถบสีมาตรฐานในการตรวจวัดปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ซึ่งบ่งบอกถึงระดับอินทรียวัตถุในดินที่ต่างกัน 8 ระดับ ตั้งแต่ต่ำมากถึงสูง จึงเป็นการประหยัดเวลาและมีความสะดวกเมื่อนำไปใช้ในภาคสนาม โดยได้ทำเป็นกล่องเครื่องมือการตรวจหาปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ซึ่งภายในบรรจุอุปกรณ์  สารเคมี แถบเทียบสีมาตรฐานและคู่มือในการใช้  โดยอาศัยหลักเบื้องต้นการวิเคราะห์อินทรียวัตถุในดินต้นแบบเว็ท ออกซิเดชั่น (wet oxidation) ของ วอล์คเลย์-แบลค (Walkley and Black) เพื่อพัฒนาชุดตรวจสอบอินทรียวัตถุ ในดินที่สามารถใช้ในการประเมินปริมาณอินทรียวัตถุในดินได้อย่างง่าย รวดเร็ว และสามารถนำไปใช้ในภาคสนามได้

สำหรับชุดตรวจสอบอินทรียวัตถุในดิน ประกอบด้วย ขวดบรรจุน้ำยาทำปฏิกิริยา (เบอร์ 1) จำนวน 2 ขวด ขวดบรรจุน้ำยาเร่งปฏิกิริยา (เบอร์ 2) จำนวน 10 ขวด ขวดบรรจุน้ำกรอง (เบอร์ 3) จำนวน 2 ขวด ขวดทำปฏิกิริยา ตะแกรงร่อนดิน ถาดหลุม หลอดสำหรับดูดน้ำยาเบอร์ 1 จำนวน 1 หลอด  หลอดดูดน้ำกรองจำนวนหนึ่ง หลอดดูดน้ำสีจำนวนหนึ่ง  แผ่นพลาสติกปาดดิน ช้อนตวงดิน  แปรงล้างขวด แถบสีมาตรฐาน หนังสือคู่มือและกล่องบรรจุ.

เรื่อนรู้วิถีขยายผลโครงการพระราชดำริ สู่เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
นายปรีชา โพธิ์ปาน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 เปิดเผยว่า กรมพัฒนาที่ดินมุ่งเน้นการนำผลสำเร็จของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาขยายผลสู่พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงมาโดยตลอด เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส ที่ได้ดำเนินการฟื้นฟูดินเปรี้ยวจัดจนสามารถผลิตข้าวให้มีผลผลิตสูงขึ้น หรือกระทั่งตัวอย่างด้านการพัฒนาที่ดินเพื่อทำการเกษตรแบบผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้มีการเผยแพร่องค์ความรู้ผ่านเครือข่ายหมอดินอาสาที่มีอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมี เพื่อให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินที่มีศักยภาพ สามารถลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้ที่มั่นคง

“ต้องยอมรับว่าเกษตรกรบางรายก็ทำการเกษตรแบบเคยชิน คือเคยทำมาอย่างไรก็จะทำอย่างนั้น เปรียบการใช้เคมีมันสะดวกเหมือนการรับประทานอาหารสำเร็จรูป ซึ่งมันง่ายสะดวกก็จริงแต่สารอาหารอาจไม่ดี ตรงกันข้ามการทำปุ๋ยใช้เองถึงแม้จะยุ่งยากสักหน่อยแต่ประโยชน์มีมากมาย ดังนั้น กรมพัฒนาที่ดินจึงพยายามสร้างเครือข่ายหมอดินอาสา ซึ่งเป็นเกษตรกรเหมือนกันให้เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่กรมฯ ในการถ่ายทอดความรู้ พร้อมทั้งเป็นจุดสาธิตในเรื่องการทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ สารขับไล่แมลงจากพืชสมุนไพร เพื่อเป็นแบบอย่างให้เกษตรกรรายอื่นได้เห็น เผื่อจะสามารถปรับเปลี่ยนความคิดหรือทัศนคติ ให้เขาเหล่านี้หันมาทำเกษตรแบบปลอดภัยมากขึ้น” นายปรีชา กล่าว.

่การศึกษาเครื่องลดความชื้นกาแฟเป็นระบบถังหมุนที่เรียกกันว่า โรตารี่

♠ Posted by Unknown in
Visit our site to read daily news in Thai, you are updating with Thai and world news, and more. Kindly support as we try hard to collect the news for you and also help share if you think it is important Thanks.
เครื่องลดความชื้นกาแฟเป็นระบบถังหมุนที่เรียกกันว่า โรตารี่ เป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้อบกาแฟในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตกาแฟเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่มูลค่าการนำเข้าสูง เพราะยังไม่มีการผลิตในประเทศ ไทย เราจึงนำมาศึกษาและพัฒนาเครื่องอบความชื้นแบบโรตารี่ สำหรับการอบแห้งกาแฟในประเทศไทย โดยพยายามออกแบบและพัฒนาให้เหมาะสมในการลดความชื้นกาแฟกะลาโรบัสต้าให้สามารถสร้างได้ง่าย แข็งแรง ราคาถูก ประสิทธิภาพสูง และสามารถประยุกต์ใช้กับการอบแห้งเมล็ดพืชได้หลากหลายชนิด...เป็นคำกล่าวของ คุณเวียง อากรชี วิศวกรการ เกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น สถาบันวิจัยเกษตรวิศว กรรม กรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเครื่องอบกาแฟกะลาโรบัสต้าแบบโรตารี่ ซึ่งประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก ๆ คือ 1. ถังอบความชื้น 2. ระบบขับเคลื่อนการหมุนถังอบ 3. พัดลมเป่าลมร้อน 4. แหล่งกำเนิดความร้อน และ 5. อุปกรณ์ลำเลียงถังกาแฟเข้าและออกจากถัง

ถังอบลดความชื้นเมล็ดกาแฟ ได้ออกแบบเป็น 2 ขนาดความจุ คือ 400 กก./ครั้ง และ 800 กก./ครั้ง คุณเวียง เล่าว่า การที่ออกแบบไว้ 2 ขนาด ก็เพื่อเปรียบเทียบดูประสิทธิภาพจะต่างกันหรือไม่ เมื่อนำไปทดสอบดูแล้วปรากฏว่าประสิทธิภาพการลดความชื้นไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าใช้ขนาด 800 กก./ถัง เราจะต้องเพิ่มขนาดทุกอย่าง ขนาดพัดลม มอเตอร์ขับเคลื่อน

ลักษณะถังอบจากเดิมเป็นรูปทรงกลมได้เปลี่ยนเป็นทรงกระบอกแปดเหลี่ยมเพื่อง่ายต่อการสร้าง มีท่อลมร้อนสำหรับเป่าอัดลมร้อนผ่านเมล็ดกาแฟที่อยู่ตรงกลางถัง ถ้ามองจากหน้าตัดถังจะเห็นเป็นรูปวงแหวนแปดเหลี่ยมด้านนอก เส้นผ่าศูนย์กลางถังอบ 1,000 และ 1,800 มิลลิลิตร ตามลำดับความจุ ความยาวถัง 1,200 มิลลิลิตร เท่ากันทั้งสองขนาด มีใบกวนคลุกเคล้าเมล็ดกาแฟ 4 ใบ มีการออกแบบช่องระบายความชื้นให้ออกทั้งสี่ด้านสมมาตรกับด้านแปดเหลี่ยมของถังช่วยให้การกระจายลมร้อนทั่วถึง และที่สำคัญช่องตะแกรงระบายความชื้นนี้สามารถถอดเปลี่ยนขนาดรูตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดเมล็ดพืชที่นำมาอบแห้งได้ มีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนการหมุนถังอบให้แข็งแรงทนทานมากขึ้น มีห้องกักเก็บความร้อนเพื่อหมุนเวียนความร้อนกลับมาใช้บางส่วนในช่วงเมล็ดกาแฟความชื้นลดต่ำลง เป็นการประหยัดเชื้อเพลิงความร้อน และที่สำคัญมีประสิทธิภาพในการอบแห้งดีขึ้น

สำหรับระบบขับเคลื่อนการหมุนถัง มีการปรับปรุงในส่วนลูกกลิ้งรับถังให้มีการรับน้ำหนักดีขึ้น สึกหรอช้าลง ระบบขับเคลื่อนการหมุนถังอบใช้โซ่และเฟืองเบอร์ 120 โดยใช้โซ่พันรอบถังอบและใช้เฟืองขับโซ่มีมอเตอร์ขนาด 2.2 กิโลวัตต์ เป็นต้นกำลัง และมีชุดเกียร์ทดและเฟืองทดรอบให้ถังอบหมุน 2.5 รอบต่อนาที

แหล่งกำเนิดความร้อน มี 2 แบบ คือ ความร้อนจากแก๊สหุงต้มหรือแก๊สแอลพีจี เป็นต้นกำเนิดความร้อนพร้อมอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ การใช้แก๊สหุงต้มจะมีชุดหัวพ่นแก๊ส  หุงต้มและอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิสามารถตั้งอุณหภูมิได้ตามต้องการ ขณะนี้การใช้แก๊สแอลพีจีเริ่มมีปัญหาเนื่องจากราคาแพงขึ้น ทำให้มีปัญหาเรื่องต้นทุนอบแห้งจึงคิดอีกวิธีหนึ่งขึ้นมา คือ ใช้ความร้อนจากเตาเชื้อเพลิงชีวมวล โดยการใช้ฟืนซึ่งสามารถหาได้ในท้องถิ่น แต่จะต้องมีชุดแลกเปลี่ยนลมร้อนจากเตาชีวมวล หรือใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน

อุปกรณ์ลำเลียงป้อนกาแฟเข้าถัง อุปกรณ์จะเป็นกะพ้อขนาด 100 มิลลิเมตร และสายพานใต้ถังอบและนำกาแฟออกจากถังเมื่ออบแห้งแล้ว

ผลการทดสอบการอบแห้งกาแฟกะลา  อุณหภูมิที่ใช้อบเริ่มต้นที่ 100 องศาเซลเซียส และปรับลดตามอุณหภูมิเมล็ดที่สูงขึ้น ซึ่งไม่ควรเกิน 45 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบแต่ละครั้งประมาณ 16-18 ชั่วโมง ที่ความชื้นเมล็ดกาแฟ 55 เปอร์เซ็นต์ และอบลดจนเหลือ 12 เปอร์เซ็นต์ จากวิธีการอบแห้งแบบการเวียนลมร้อนบางส่วนกลับมาใช้ใหม่ มีค่าประสิทธิภาพความร้อนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์

“เราสามารถประยุกต์ใช้อบแห้งเมล็ดพืชได้เกือบทุกชนิด เช่น กาแฟโรบัสต้า อาราบิก้า อบได้แบบเปลือกหรือกะลา เมล็ดข้าวโพด ถั่วชนิดต่าง ๆ และเมล็ดพริกไทย เป็นต้น เพียงแต่เปลี่ยนตะแกรงช่องระบายความชื้นให้มีขนาดเหมาะสมกับขนาดเมล็ดพืชชนิดนั้น ๆ” คุณเวียง กล่าว

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-4325-5038.